เบื่อไหม? กับปัญหาคราบสกปรก ฝุ่นละออง น้ำขัง บนพื้นรถของคุณ ปล่อยไว้ไม่ดูแล นานๆไปก็เหม็นอับ
ซักพรมก็ยาก แถมราคายังสูงอีก! ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป!
วันนี้เราจะมารีวิว 5 แบบพรมรถยนต์ที่เราทดลองมาแล้วว่า ดีจนอยากบอกต่อ!
ทำไมต้องใส่ใจพรมรถยนต์?
สำหรับคนรักรถอย่างพวกเรา รถยนต์ เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของเรา การดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ พรมรถยนต์ เปรียบเสมือนด่านแรกในการป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง ฝน แสงแดด
แต่ในปัจจุบันพรมรถยนต์มีหลากหลายวัสดุ หลายประเภท หลายคนอาจจะสงสัยว่าแบบไหนกันที่เหมาะกับคุณ?
วันนี้เราคัดมาให้แล้ว! ว่าพรมปูพื้นรถยนต์ แบบไหนดี ลองดูไปพร้อมกันเลยยยย!
1) พรมปูพื้นรถยนต์ ยางEVA หรือพรมกระดุม โดยลักษณะจะคล้ายกับกระดุม ทำมาจากวัสดุยางกึ่งโฟม
ข้อดีคือ : ทนทาน, กันน้ำ, ทำความสะอาดง่าย, ราคาถูก, ถอดง่าย
ข้อเสียคือ : มีกลิ่นเหม็น (แต่จะมีแค่ไม่เกิน 7วัน), อายุการใช้งานน้อย(เพียง2-4 ปี), มีจำนวนชิ้นที่เยอะ, ฝุ่นและน้ำลงตามรอยต่อ
เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เนื่องจาก ราคาถูก เริ่มต้นเพียง 990 บาท
2) พรมปูพื้นรถยนต์ ยาง PVC หรือที่เรียกกันว่าพรมกระดุมเล็ก โดยลักษณะภายนอกจะคล้ายพรมกระดุม แต่จะมีเม็ดกระดุมที่เล็กกว่าทำมาจากวัสดุยางPVC ซึ่งจะเป็นยางล้วนๆไม่มีโฟมผสมเลย จึงทำให้สวยและทนทานกว่าวัสดุอื่นอย่างมาก โดยอายุการใช้งานนั้นมากกว่า 10 ปี
ข้อดีคือ : กันน้ำ, ทนทาน(ที่สุดในทุกแบบที่ยกตัวอย่างมา), ถอดง่าย
ข้อเสียคือ : มีน้ำหนักมาก, ราคาค่อนข้างสูง(เมื่อเทียบกับแบบอื่น) มีจำนวนชิ้นเยอะ, ฝุ่นและน้ำสามารถลงตามรอยต่อได้
เหมาะสำหรับรถที่ใช่งานหนัก เน้นเรื่องความทนทาน
3) พรมไวนิลดักฝุ่น หรือที่เรียกกันว่าพรมดักฝุ่น โดยลักษณะจะคล้ายใยบวบทำมาจากวัสดุไวนิล
ข้อดีคือ : กันน้ำ, สวยงามหรูหรา, สัมผัสนุ่มนวลสบายเท้า และช่วยดักฝุ่นในรถ
ข้อเสียคือ : ทำความสะอาดยาก, และมีจำนวนชิ้นที่เยอะ , ฝุ่นและน้ำสามารถลงตามรอยต่อได้
เหมาะสำหรับคนที่ชอบถอดรองเท้าขับรถเป็นพิเศษ เนื่องจากนุ่มสบายเท้า ทำความสะอาดบ่อย
4) พรมปูพื้นรถยนต์ 6D เป็นพรมแบบที่ได้รับความนิยม มาเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน ทำจากวัสดุถึง 6 ชั้น โดยจะมีวัสดุหลัก เช่น หนังPU และฟองน้ำXPE หรือบางที่อาจใช้ฟองน้ำธรรมดาซึ่งคุณภาพจะต่ำกว่า
ข้อดีคือ : ราคาไม่สูง สวยงามหรูหรา, ทนทาน, กันน้ำ, ทำความสะอาดง่าย , ติดตั้งง่ายเพราะจำนวนชิ้นน้อย(เย็บติดเป็นชิ้นเดียว), น้ำและฝุ่นไม่ลงถึงรถ (เนื่องจากไม่มีรอยต่อ)
ข้อเสียคือ : ถอดมาทำความสะอาดยากยาก (แต่สามารถใช้ผ้าเช็ดได้)
เหมาะสำหรับคนที่ใช่งานทั่วไปไม่หนักมาก เน้นความสวยงามหรูหรา
5) พรมปูพื้นรถยนต์7D คือ พรม6D ที่นำมาต่อยอดด้วยการเพิ่มพรมไวนิลดักฝุ่นไปอีก หนึ่งชั้นด้านบน เพื่อให้สามารถดักฝุ่นและถอดทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อแก้ข้อเสียของ พรม6Dเป็นพรมรถยนต์ที่ลงตัวที่สุดในด้านความสวยงามและความทนทาน
ข้อดีคือ : รวมข้อดีของพรม6D และพรมไวนิลเข้าด้วยกัน, สามารถซื้อพรมไวนิลแยกชิ้นมาเปลี่ยนได้, ถอดง่าย(ยกแค่พรมไวนิลมาล้างได้เลย)
ข้อเสียคือ : ราคาค่อนข้างสูง(ที่สุดในทุกแบบที่ยกตัวอย่างมา)
เหมาะสำหรับคนที่ชอบถอดรองเท้าขับรถเป็นพิเศษ เนื่องจากนุ่มสบายเท้า และเน้นความสวยงาม ทำความสะอาดบ่อย(เนื่องจากพรมจะเก็บฝุ่น)
จากประสบการณ์การใช้พรมรถยนต์ทั้งหมดที่กล่าวมา บอกได้เลยว่า พรมรถยนต์เป็นไอเทมที่มีความสำคัญอย่างมาก ทั้งช่วยให้รถของคุณดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก แถมยังช่วยในการป้องกันพื้นรถของคุณจากสิ่งต่างๆ และยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วยแต่ข้อควรระวังอีกอย่างคือ หากจะเลือกซื้อพรมรถยนต์ ควรเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ โดยอาจจะดูจากจำนวนผู้ติดตามในเพจ
มีเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆของgoogle มีหน้าร้านชัดเจน หรือถ้าเป็นโรงงานผลิตด้วยยิ่งดี เพราะอาจเสี่ยงได้รับสินค้าไม่ตรงปกเหมือนที่หลายคนเคยเจอมา หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/lovecarcover
หวังว่ารีวิวของเราจะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่กำลังเลือกซื้อพรมรถยนต์เพื่อปกป้องรถของคุณไม่มากก็น้อย...
อ้างอิงบทความจาก www.lovecarauto1988.com